˙·٠•●♥เทพฟิสิกส์™ ♥●•٠·˙ http://candamidia2.siam2web.com/

 

เมื่อฉันยังเยาว์

 

  

คุณก็เคยเป็นเด็ก  ผมก็เคยเป็นเด็ก

              ความไร้เดียงสาเมื่อครั้งยังเด็กมันคือความทรงจำที่ผมยังเก็บไว้ระลึกถึงเสมอ

  เมื่อครั้งยังเป็นเด็กคุณเคยตั้งคำถามกับตัวเองหรือป่าวครับ ว่าคุณฝันอยากที่จะเป็นอะไร  คิดที่จะเป็นอะไร 

  ผมคนหนึ่งที่ตั้งคำถามกับตัวเองแบบนั้นแล้วผมก็ตอบตัวเองได้  ว่าผมฝันอยากที่จะเป็นอะไรคือผมอยากที่จะเป็น ครู  ตำรวจ  และแพทย์ ความฝันเหล่านี้มักจะได้คำชมจากผู้ใหญ่เสมอ  เมื่อคุณตอบว่า   คุณอยากเป็นแพทย์   ประมาณว่า   ว้าว  ! เก่งมากลูก

       แต่สำหรับความคิดของผมผมคิดว่าการค้นหาตัวเองต่างหากที่จะบอกได้ว่าตัวเองเหมาะที่จะเป็นอะไรมาก กว่า  อาจจะเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าแท้จริงแล้วตัวคุณเองต้องการสิ่งไหนแน่ และผมก็ได้ค้นพบว่าผมไม่เหมาะกับสิ่งไหน   เมื่อครั้งนั้นความหวังที่จะเป็นแพทย์ของผมต้องพังทลายลงไป เมื่อผมพบว่าอาชีพนี้มันไม่เหมาะกับผมเลย  มันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การบริจาคเลือดครั้งแรกของผม   หากคุณเคยบริจาคครั้งแรกคุณอาจจะรู้สึกเหมือนกับผมเลยก็ได้มันเหมือนเรากำลังเดินขึ้นเขืองให้หมอเชือดยังไงยังงั้ง ตอนแรกผมก็พอทำใจได้  แต่พอผมเผอิญมองไปเห็นคุณป้าคนหนึ่ง ที่หมอกำลังเจาะเลือดที่ต้นแขนอยู่  ผมมองไปที่หน้าป้าคนั้นดูแกหน้าซีดมากเลย    แล้วผมก็เลยถามตัวเองในใจว่า

 

                     แมรงกูจะรอดหรือป่าววะเนี้ย.  

 

                 มันทำให้ผมปอดมากๆ      แล้วผมก็สังเกตอยู่นานจนกระทั้งป้าคนนั้นบริจาคเลือดเสร็จแล้วป้าคนนั้นก็ลุกออกจากเตียงเดินไปได้ประมาณ 3-4 ก้าว แล้วก็หมดสติล้มลงไปกับพื้น หัวป้าคนนั้นแตกเลือดเปื้อนพื้น  ภาพนั้นมันทำให้ผมกลัวมากจนตัวผมสั่น  แล้วหลังจากการบริจากครั้งนั้นของผมก็รู้ว่าผมเป็นคนกลัวเลือด  และเหตุการณืนี้ก็ยังบอกอีกว่าผมไม่เหมาะกับการที่จะเป็นแพทย์หรืออาชีพหมอที่ผมใฝ่ฝันเลย     ผมก็แค่ได้ปลอบใจตัวเองแต่ไม่เป็นไรเพราะผมยังคงมีอีกตั้งสองความฝันที่ยังคงเหลืออยู่

 

แค่เลือกเดินตามเส้นทางของหัวใจตัวเองสิ่งที่คุณเลือกมันจะเลือกคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความล้มเหลวบนความขยัน

 

การเริ่มต้นก้าวสำคัญเมื่ออยู่  ม.ปลาย   มันคือช่วงที่คุณต้องอาศัยความขยัน

มันคือช่วงที่คุณต้องทำอะไรชักอย่างเพื่อตัวคุณเอง

สำหรับผม  ชีวิต  ม.ปลายมันคือช่วงการตัดสินใจครั้งที่สองของผมว่าผมจะเลือกทางเดินชีวิตอย่างไร

การตัดสินใจครั้งแรกของผมคือการที่ผมจะต้องเลือกทางเดินช่วง  ม.3 ว่าผมจะเรียน สายสามัญ  หรือสายอาชีพ

แต่ผมก็เลือกในสิ่งที่ผมชอบคือการเรียนสายสามัญในวิทย์-คณิตแต่พอก้าวขึ้นมา  ม.ปลายแล้ว (ม.5 เทอม2)มันคือสิ่งที่ผมจะต้องทำตามความฝันที่ผมตั้งไว้เมื่อครั้งยังเด็ก   ในตอนนั้นมีระบบการศึกษามาใหม่ คือมีการสอบ GAT/PATเป็นการสอบเพื่อที่จะเอาคะแนนไปเอ็นเข้ามหาลัยต่างๆและผมก็คิดว่ามันคงอยากมากๆสำหรับการสอบนี้   ผมก็ได้สร้างความตั้งใจไว้ว่า   กรู  ต้องทำให้ได้คะแนนมากให้ได้เพื่ออนาคตและพ่อแม่และถามว่าผมรู้จัก ไอ้คำว่าGAT/PATหรือป่าว   ผมตอบได้ว่า ไม่

         เหลือเวลาแค่1เดือนก็จะสอบแล้ว  ผมจึงอุทิศเวลาที่เหลือให้กับการอ่านหนังสือ ภายในห้องคนเดียว  แม้แต่งานบ้านก็ไม่ยอมทำช่วยแม่  แต่ผมก็อธิบายให้แม่เข้าใจ   ตอนนั้นผมต้องกลายเป็นซูปเปอร์ไซย่าให้ได้ภายใน1เดือน

ผมทุ่มเทเป็นอย่างมากับการอ่านหนังสือ พอใกล้ถึงวันสอบมันก็เริ่มทำให้ผมอยากพิสูจน์ตัวเองมากเท่านั้นกับการใช้เวลา1เดือนของผม  ยิ่งใกล้วันสอบผมก็ยิ่งอ่านหนักขึ้นทุกวัน  จนดูเหมือนผมไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร

พอมาถึงวันที่สอบผมก็ไปสอบ    แล้วหลังจากนั้นประมาณ1เดือนให้หลังประกาศผลสอบผมแทบล้มทั้งยืนคะแนนสอบผมได้ไม่ถึงครึ่งเลยครับ

ความรู้สึกตอนนั้นมันดูเหมือนกับว่า1เดือนของผมสูญป่าว  ผมแทบจะบ้ากับผลสอบแต่พอผมได้ยินข่าวการสอบ

GAT/PATรอบสองและสามมาใหม่และเมื่อผมได้ยินอย่างนั้นอีกครั้งมันทำให้ชีวิตผมเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้งการสอบGAT/PATรอบสองและสามมันคือพระเจ้าสำหรับผมครับและผมก็ตั้งใจอีกครั้งที่จะทำมันให้ได้

แต่ครั้งนี้ผมกลับเข้าใจว่า   โอกาสเป็นของคนที่พร้องที่สุด  ไม่ใช่การที่จะมาอ่านหนังสือแค่เดือนสองเดือน

ผมจึงเริ่มที่จะแบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน  และผมจะไม่หยุดอ่านมันจนกว่าผมจะสิ้นชีวิต

หลังจากการอ่านหนังสือของผมและหลังจากการสอบGAT/PATครั้งที่สองและสามของผม

ผลที่ได้มันกลับเกินความคาดหมาย.......

 

การอ่านคือการท่องเที่ยวไปทั่วโลก  โดยมีตัวหนังสือเป็นมคุเทศน์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความฝันผกผันกับความจริง

 

 

ช่วงเวลาการตัดสินใจครั้งที่สองของผมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว   

เมื่อคุณเลือกที่จะทำ  คุณต้องรักในสิ่งที่คุณเลือก

เช่นเดี่ยวกับผมความฝันที่เหลืออยู่มีเพียงสองอย่างเท่านั้นคือ ตำรวจ และครู   

ผมเลือก ที่จะทำตามความฝันคือการเรียนคณะวิทยาศาสตร์  ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น   ผมจึงทุ่มเทเป็นอย่างมากับการเข้ามหาลัยแห่งนี้  และแล้วความหวังของผมมันก็พังทลายลงอีกครั้งเมื่อผมรู้ว่าผมเอ็นไม่ติด มหาวิทยาลัยขอนแกนผมแทบอยากตายครับ  ผมจึงใช้ชีวิต ม.6เทอม2 อย่างซังกะตาย  เหมือนกับโลกนี้มีแต่ความสิ้นหวัง

ด้วยการให้กำลังใจจากพ่อแม่  ครู  และเพื่อน  ผมจึงอยากที่จะสู้เพื่อความฝันอีกครั้ง  และที่สำคัญผมบังเอิญไปดูหนังสั้นเรื่องนึงที่ดูแล้วมันทำให้ผมซึงมาก

มันเป็นเรื่องของนกkiwi ขนาดมันรูว่าไม่มีทางบินได้แต่มันก็ยังทุ่มเททำเพื่อความฝันของมัน

 

หนั้งสั้นเรื่องนี้คือเรื่อง    kiwi  คุณสามารถดูได้ตามอินเตอร์เน็ต

 

และมันก็ทำให้ผมกลับมาสู้อีกครั้งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และผมก็มองที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีแห่งนี้เป็นที่แรกผมจึงตั้งใจว่ายังไงผมจะต้องเข้าให้ได้   ผมตัดสินใจเสี่ยงลงวิชาเดียวเลยคือฟิสิกส์   หลังจาการสอบเส็จแล้วก็ประกาศ  ผมแทบร้องไห้ผมสอบติด   ผมดีใจเป็นอย่างมาก  ที่ผมสอบเข้าได้

และที่ดีใจเป็นที่สุดก็คือพ่อกับแม่ของผมครับ  ผมภูมิใจเป็นอย่างมาก กับการสอบเข้าได้ของผม

แม้ใครจะมองว่าราชภัฏอุดรเป็นแค่มหาลัยเล็ก   แต่มันเป็นจุดจบก้าวที่สองของผมและต่อก้าวที่สามให้กับผม

 

เพื่อคุณหรือเพื่อใคร  ก้าวแรกและก้าวต่อไปเพื่อใครหลายๆคน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

และการก้าวเข้ามาสู่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานีของผมก้าวแรกที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น

แต่พอได้มาสัมผัสแค่เพียงอาทิตย์แรกผมรู้สึกด้ถึงความอบอุ่นที่ได้จากรุ่นพี่มีให้รุ่นน้อง

เหมือนกับว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน

แต่พอผมอยู่นานไปผมก็ยังรู้อีกว่าในราชภัฎอุดรแห่งนี้ไม่ใช่แค่การสอนให้ความรู้แต่ยั้งสอนประสบการณ์หลายอย่างแก่ผมผมคิดว่า การมาอยู่ในรอบรั้วแห่งนี้  เปรียบเหมือนหม้อใบหนึ่งที่ใส่อาหารหลากหลายรสลงไปในหม้อแล้วนำไปผ่านวิธีการต่างๆแล้วออกมาในรูปรสเดียวกันก็เหมือนกับการที่ผมมาอยู่ราชภัฎอุดรแห่นี้มันทำให้ผมรู้ว่าคนเรามีนิสัยต่างกันควรปรับตัวเข้ากับ  มันคือวิชาชีวิต

การก้าวมาสู่ความฝันของผมในราชภัฎอุดร   ช่าวยให้ผมได้บทเรียนหลายอย่างและแยกคำว่านักเรียนและนักศึกษาออกจากกันได้  คือการเป็นนักเรียนเปรียบเหมือนนกที่ยังคงคอยเหยื่อจากแม่นก

เหมือนกับนักเรียนที่ยังคงคอยกับการรอรับความรู้จากครู

นักศึกษาเปรียบเหมือนหมาล่าเนื้อที่คอยตามล่าเนื้อนั้นเองเหมือนกับนักศึกษาที่ต้องศึกษาค้นค้วาด้วยตัวเอง

และความฝันและความคิดของผมที่หลากหลายได้เกิดขึ้นแล้วกับที่แห่งนี้ ราชภัฎอุดรธานี

การเรียนรู้ไร้ขอบเขต    การแสวงหาไร้พรมแดน.

 

   ok ป่าวครับ  มีอารายก็ติชมได้นะคร๊าป 

    นายทศพล   มูลเพ็ญ

    canda

Advertising Zone    Close


Online: 1 Visits: 7,969 Today: 2 PageView/Month: 10

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...